ความแตกต่างระหว่าง “คนที่ทำงานเร็ว” กับ “คนที่ทำงานช้า”

ในช่วงชีวิตของคนเรา อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว

ความผิดพลาดนั้นอาจจะเกิดจากความไม่รู้ตัวหรือทำไปโดยไม่ได้ความหวังว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น แต่หากมันเกิดขึ้นแล้วเราควรจะรับมือกับความผิดพลาดนั้นอย่างไร และสิ่งนี้ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเราด้วย จึงเกิดเป็นความแตกต่างระหว่าง “คนที่ทำงานเร็ว” กับ “คนที่ทำงานช้า”


คนทำงานเร็วมักเปลี่ยนความผิดพลาดเหล่านั้นมาเป็นบทเรียน แต่คนทำงานช้ามักจะกังวลและหวาดกลัว
แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ความผิดพลาดก็ถือเป็นขั้นตอนในการลองผิดลองถูกเพื่อนำมาซึ่งผลสำเร็จ หากเราลองวิธีนี้แล้วไม่ได้ผล เราก็ควรเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นที่เหมาะสมและให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า 

ดังนั้นความผิดพลาดในแต่ละครั้งจึงถือเป็นโอกาสให้เราได้พัฒนาด้วยตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ได้มีโอกาสตรวจสอบว่าเหตุใดผลลัพธ์จึงไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง รวมถึงจะต้องปรับปรุงอย่างไรในภายหน้าเพื่อให้ไปเป็นตามที่คาดการณ์ไว้

 
คนที่ทำงานช้า มักจะยอมรับวงจรเหล่านี้ไม่ได้ ทำให้เมื่อเกิดความผิดพลาดจะรู้สึกตื่นตะหนก ไม่พิจารณาให้ลึกซึ้งว่าควรทำอย่างไร มีอะไรต้องใส่ใจบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก
คนทำงานเร็วมักจะจดจำความผิดพลาดนำไปพัฒนาแก้ แก้ไข ปรับปรุง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำ ๆ โดยพวกเขาจะมีหลักคิดที่ว่า การได้เรียนรู้ และ แก้ไข นั้นจะช่วยให้ความผิดพลาดไม่เกิดขึ้นอีก

 
ดังคำกล่าวที่ว่า

 “ประสบการณ์คือแหล่งความรู้ที่มหัศจรรย์ ที่จะช่วยให้คุณจดจำ ความผิดพลาดที่คุณเคยก่อเมื่อคุณได้ทำสิ่งผิดพลาดนั้นอีกครั้ง”